วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กฐินหลวง'' ครั้งที่ 17 ลาว-ไทย ยิ่งนานยิ่งผูกพันมั่นยืน





สมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ ได้นำ ’กฐินพระราชทาน“ จาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปถวายวัดสำคัญ ๆ ใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) นับตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปี 2555 นี้ จะเว้นช่วงไปบ้าง ก็น้อยเต็มที ปีนี้เป็นกฐินพระราชทาน ครั้งที่ 17 แล้ว

ดร.โกร่ง–วีรพงษ์ รามางกูร ประธานสมาคมไทย-ลาว เพื่อมิตรภาพ ได้นำคณะกรรมการฯ ซึ่งมี นายสุวิทย์ สิมะสกุล เลขาธิการ นายบรรณสาร จันทร์สมศักดิ์ รองเลขาธิการ นางศุภลักษณ์ ตัณฑาภิชาติ นายคำผุย จิระรื่นศักดิ์ กรรมการ พร้อมสื่อมวลชน และภาคเอกชน เดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำคัญนี้ ณ วัดสีพม เมืองคูน แขวงเชียงขวาง ทางภาคกลางของ สปป.ลาว ห่างจากเมืองหลวงเวียงจันทน์ประมาณ 400 กม.

ขณะที่ทางฝั่งลาว ท่านเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียงจันทน์ นายพิษณุ จันทร์วิทัน, นายรัศม์ ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต พร้อมด้วย ศ.ดร.บ่อแสงคำ วงดาลา รมว.กระทรวงแถลงข่าววัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และประธานสมาคมลาว-ไทย เพื่อมิตรภาพ พร้อมคณะ ก็ได้เตรียมการรับอย่างพร้อมเพรียง พิเศษหน่อย ปีนี้ค่าย ไทยเบฟ ของ เสี่ยเจริญ ศิริวัฒนภักดี ได้ส่งทีมโค้ชฟุตบอล นำโดย ชาญวิทย์ ผลชีวิน ไปทำโครงการฝึกสอนฟุตบอลให้เยาวชนเชียงขวางด้วย ปรากฏว่า ได้รับการขานรับอื้ออึงไปเลย

การเดินทางหนนี้ คณะเลือกใช้ สายการบินแห่งชาติลาว (Lao Airlines) ขึ้นจากสนามบินสุวรรณภูมิไปลงสนามบินวัดไต เวียงจันทน์ ก่อนต่อเครื่องในประเทศไปลงที่เชียงขวาง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงแล้ว ต้องบอกว่า สะดวกสบาย การบริการบนเครื่องและความสะอาดได้มาตรฐาน แม้เป็นเครื่องบินเล็ก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด ใครที่จินตนาการว่าลาวล้าหลังไม่เข้าท่า ควรต้องเปลี่ยนความคิดใหม่

ประเทศเพื่อนบ้านของเราไม่ได้ขี้เหร่หลังเขาอย่างที่บางคนคิดเองเออเองหรอกนะ ที่เขียนเยี่ยงนี้ ก็เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้มีข่าวสนั่นโลกออนไลน์ เมื่อนักร้องสาวนางหนึ่งของค่ายดัง ไม่พอใจที่ต้องเก้อถือช่อดอกไม้ไปงานคอนเสิร์ต เลยสบถว่า “ทำไมลาวอย่างนี้” ให้บังเอิญที่นักร้องสาว สีสะเหงียน เธอตามหลังมาติด ๆ เลยได้ยิน สวนกลับไปว่า ทำไมต้องดูถูกคนลาว พร้อมเอาไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก กลายเป็นประเด็นร้อนหลายวัน ที่สุด นักร้องสาวค่ายดังต้องออกมาขอโทษว่า ไม่มีเจตนาดูถูกคนลาวเลย เรื่องเลยสงบลง ไม่ลุกลามบานปลายอย่างที่เคยเกิดในอดีตเป็นอีกบทเรียนและอุทาหรณ์

ประเทศใคร ใครก็รัก รวย จน ตึกสูง ตึกเตี้ย รถติดวินาศสันตะโร ป้ายโฆษณาเต็มพรืด ห้างสรรพสินค้าเต็มเมือง ไม่ได้แสดงถึงความศิวิไลซ์หรือวิเศษวิโสกว่าใคร ถ้าวัดกันแค่นั้น ลาวน่ะเหนือไทยด้วยซ้ำ เขามีโทรศัพท์ 3 จีจริง ๆ ใช้แล้ว ไทยยังกระดื๊บ ๆ ใช้ 3 จีปลอม ๆ อยู่เลย เวียงจันทน์วันนี้รถราก็ติดหนึบหนับ แต่ที่เชียงขวาง ซึ่งคณะไปทอดกฐินฯ บ้านเมืองสวยงาม สะอาดสะอ้าน บ้านช่องห้องหอปลูกแบบบ้านจัดสรรสมัยใหม่ ไม่ได้อยู่เพิงหรือหลังคามุงจาก แถมชาวเมืองยังมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาแก่กล้า เวลาเขาจะใส่บาตรถวายพระ เขาถอดรองเท้าทุกคน แม้พื้นจะเป็นซีเมนต์หรือโรยด้วยกรวด ก็ไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด

จึงมิสมควรจะทะนงตนว่า รวยกว่า เจ๋งกว่า สวยกว่า หล่อกว่า แล้วไปดูถูกชาติอื่น ใครคิดเช่นนั้น นอกจากไม่พัฒนาแล้ว ตัวเองนั่นล่ะ อยู่หลังเขา หาใช่คนอื่นไม่???

ขอวกกลับมาที่เชียงขวางอีกนิด เมืองนี้มี “ทุ่งไหหิน” อันลือชื่อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แล้วยังเป็นที่ที่สหรัฐเอาลูกระเบิดมาถล่มหย่อนไว้เต็มเมืองช่วงสงครามเย็น ซึ่งลาวได้เปลี่ยนระบบการปกครองไปอยู่ค่ายเดียวกับจีน รัสเซีย กระทั่งปัจจุบัน ตึกรามบ้านช่องที่เห็นเพิ่งมีการก่อสร้างไม่กี่สิบปี อนุสรณ์แห่งสงครามคือ ลูกระเบิดใหญ่ยักษ์ ยังหลงเหลือมาให้ชาวเชียงขวางใช้เป็นเครื่องเตือนใจ เอาทำเสาป้ายโฆษณาบ้าง ทำรั้วบ้านบ้าง ทำเตาบาร์บีคิวย่างไก่บ้าง หรืออย่างโรงแรมที่พัก เจ้าของเอาลูกระเบิดมาประดับเป็นของโชว์เล่นซะเลย

เห็นแล้วตื่นตาตื่นใจไปอีกแบบ

บวกกับอากาศเย็นสบาย พระจันทร์เต็มดวง ดาวเต็มท้องฟ้า โรแมนติกเหมือนฉากในละครก็ไม่ปาน

’กฐินพระราชทาน“ ปีนี้ ช่วงงานฉลององค์กฐิน มี 2 นักร้องจากไทย โจนัส กับ คัฑลียา มารศรี ไปเรียกเสียงกรี๊ดสลบสะใจขาโจ๋ ได้เงินทำบุญกว่า 4.5 ล้านบาท เงินกีบอีก 120 ล้านกีบ (7 แสนเศษ) เอาไปทำนุบำรุงศาสนสถานและอุดหนุนเรื่องการศึกษาของคณะสงฆ์ลาวได้อีกมากมาย

เป็นการผูกรักผูกศรัทธาระหว่างคน 2 ชาติ

ให้มั่นยืน...

ตลอดกาล...


ที่มา :

http://www.dailynews.co.th/article/223/170303